ฉายแสง มะเร็ง รังสีรักษา (Radiotherapy) กี่ครั้ง เจ็บไหม ผลข้างเคียง

ฉายแสง มะเร็ง รังสีรักษา (Radiotherapy) กี่ครั้ง ขั้นตอน ผลข้างเคียง

ฉายแสง (Radiotherapy) หรือ รังสีรักษา คือ วิธีการรักษามะเร็งด้วยการฉายรังสีพลังงานสูง เช่น รังสีเอกซ์ แกมมา หรืออนุภาคประจุไฟฟ้าไปที่ก้อนมะเร็งเพื่อทำลายสารพันธุกรรม (DNA) ของเซลล์มะเร็งไม่ให้ แบ่งตัว

แชร์

เลือกหัวข้อที่อ่าน


ฉายแสง มะเร็ง รังสีรักษา (Radiotherapy) 

ฉายแสง (Radiotherapy) หรือ รังสีรักษา คือ วิธีการรักษามะเร็งด้วยการฉายรังสีพลังงานสูง เช่น รังสีเอกซ์ แกมมา หรืออนุภาคประจุไฟฟ้าไปที่ก้อนมะเร็งเพื่อทำลายสารพันธุกรรม (DNA) ของเซลล์มะเร็งไม่ให้แบ่งตัว ค่อย ๆ ตาย และถูกกำจัดออกจากร่างกายไปในที่สุด การฉายแสงทำให้ก้อนมะเร็งฝ่อ ลดอาการเจ็บปวดจากมะเร็ง ลดการกลับมาเป็นซ้ำ และทำให้การรักษาร่วม เช่น การผ่าตัด เคมีบำบัด หรือยามุ่งเป้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น วิธีการรักษามะเร็งด้วยการฉายแสงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาการรักษาจากชนิดและระยะของมะเร็ง ขนาดของมะเร็ง และสุขภาพโดยรวมของผู้รับการรักษา ในปัจจุบัน เครื่องฉายแสง ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว สามารถทำลายก้อนมะเร็งได้ตรงเป้า และกระทบต่อเนื้อเยื่อปกติน้อยที่สุด 

เป้าหมายของการฉายแสง

แพทย์รักษามะเร็งด้วยวิธีการฉายแสง โดยมีเป้าหมายหลัก 4 ประการ ได้แก่

  1. เพื่อรักษามะเร็งให้หายขาด (Cure) การฉายแสงหวังผลให้หายจากมะเร็ง มะเร็งบางชนิดสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยการฉายแสงเพียงอย่างเดียว หรือฉายแสงร่วมกับการรักษาอื่น ๆ
  2. เพื่อควบคุมโรคมะเร็ง (Control) การฉายแสงสามารถควบคุมมะเร็งบางชนิดได้ด้วยการทำให้มะเร็งหยุดการเติบโต หดตัว ลดการกดเบียดอวัยวะสำคัญ และหยุดการลุกลามไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียง
  3. เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา (Increase treatment efficiency) แพทย์อาจพิจารณาการฉายแสงก่อนหรือหลังการรักษามะเร็งด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดการกำเริบหลังการผ่าตัด และลดการกลับมาเป็นซ้ำที่ตำแหน่งเดิมหรือต่อมน้ำเหลือง
  4. เพื่อประคับประคอง (Palliative care) ในกรณีที่มะเร็งแพร่กระจายลุกลามไปมาก การฉายแสงช่วยระงับความเจ็บปวด ลดการใช้ยาแก้ปวด บรรเทาภาวะเลือดออกจากก้อนมะเร็ง และช่วยรักษาคุณภาพชีวิตเอาไว้ให้ได้ดีที่สุด

ฉายแสง รักษามะเร็งอะไร

ฉายแสง รักษามะเร็งอะไร

  1. มะเร็งศีรษะและลำคอ เช่น มะเร็งสมอง มะเร็งในโพรงจมูกและไซนัส มะเร็งโพรงหลังจมูก มะเร็งช่องปาก มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งต่อมทอนซิล มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งลิ้น
  2. มะเร็งช่องอก เช่น มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม 
  3. มะเร็งระบบทางเดินอาหาร เช่น มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน
  4. มะเร็งทางเดินปัสสาวะและระบบอวัยวะสืบพันธุ์ เช่น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งมดลูก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก
  5. เนื้องอกและโรคที่ไม่ใช่มะเร็ง เช่น เนื้องอกสมอง เนื้องอกไขสันหลัง โรคปวดประสาทใบหน้า เนื้องอกเยื่อหุ้มสมอง เนื้องอกประสาทหู รคหลอดเลือดสมองผิดปกติเอวีเอ็ม
  6. แผลคีลอยด์ หรือแผลนูนหลังการผ่าตัด เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

ฉายแสง มีกี่ประเภท

การฉายแสง หรือ รังสีรักษา ที่แพทย์นิยมใช้รักษาในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. การฉายแสงระยะไกลจากภายนอก (External radiotherapy: EBRT) เป็นการฉายรังสีพลังงานสูง ด้วยเครื่องฉายรังสีแบบเร่งอนุภาคจากจากภายนอกโดยตรงสู่เนื้องอกหรือมะเร็งภายในร่างกาย
    • เทคนิคนี้ ใช้เครื่องฉายแสงระยะไกลแบบ 2 มิติ 3 มิติ หรือการฉายรังสีแปรความเข้ม IMRT (Intensity Modulated Radiation Therapy) หรือ VMAT (Volumetric Modulated Arc Therapy)
    • แพทย์ใช้เครื่องจำลองการรักษา (CT simulator) เพื่อวิเคราะห์ตำแหน่งและขอบเขตของมะเร็งอย่างแม่นยำ
    • แผนที่ตำแหน่งมะเร็งที่มีความแม่นยำ จะช่วยบอกขนาด รูปร่าง ทิศทาง และกำหนดปริมาณความเข้มของรังสี เพื่อให้ก้อนมะเร็งได้รับรังสีในปริมาณที่เหมาะสม และกระทบต่ออวัยวะข้างเคียงน้อยที่สุด
  1. การฉายแสงระยะใกล้ (Internal radiotherapy) เป็นการใส่แร่กัมมันตรังสี (Brachytherapy) ความเข้มสูงเข้าไปในก้อนมะเร็งโดยตรง หรือตำแหน่งใกล้เคียงกับก้อนมะเร็ง
    • การใส่แร่ เป็นวิธีรักษา โดยการให้กัมมันตรังสีระดับสูง แผ่ออกทำลายเซลล์มะเร็งโดยตรง ในระยะเวลาสั้น ๆ 
    • จากนั้น จึงค่อยนำแร่ออกจากร่างกาย โดยจะไม่มีรังสีตกค้าง และไม่กระทบต่อบุคคลรอบข้างแต่อย่างใด
    • แพทย์จะใช้การตรวจ Ultrasound หรือ CT-scans เพื่อวางแผนการรักษา และกำหนดตำแหน่งที่แน่นอนในการใส่แร่

การวินิจฉัย ก่อนฉายแสงมะเร็ง มีขั้นตอนอย่างไร

แพทย์จะทบทวนประวัติผู้รับการรักษา ตรวจร่างกายอย่างละเอียด และตรวจผลวิเคราะห์ทางรังสีวินิจฉัย เช่น ผลการตรวจ X-rays, CT scan, MRIs และ PET scans รวมทั้งผลการตรวจทางพยาธิวิทยา (ผลชิ้นเนื้อ) เพื่อยืนยันชนิด และระยะของมะเร็ง และพิจารณาทางเลือกในการรักษา ดังนี้

  1. มะเร็งระยะแรกเริ่ม (Early-stage cancer) แพทย์อาจพิจารณาการรักษาด้วยวิธีการเดียว เช่น การผ่าตัดเพียงอย่างเดียว การฉายแสงเพียงอย่างเดียว หรือการฉายแสงหลังการผ่าตัดเป็นตัวเสริมในการรักษา เพื่อลดความเสี่ยงในการกลับมาเป็นซ้ำเฉพาะที่
  2. มะเร็งระยะลุกลาม (Advanced stage or Metastatic cancer) แพทย์อาจพิจารณาการรักษาแบบผสมผสาน เช่น การฉายแสงไปพร้อม ๆ กับการให้เคมีบำบัด หากพบรอยโรคขนาดเล็ก แพทย์อาจรักษาด้วยรังสีศัลยกรรมหรือรังสีร่วมพิกัดโดยการฉายรังสีปริมาณสูงโดยตรงไปที่ก้อนมะเร็ง ประมาณ 3-5 ครั้ง ภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ 

ฉายแสง มีขั้นตอนอย่างไร What is the radiotherapy procedure?

ฉายแสง มีขั้นตอนอย่างไร

หลังจากที่แพทย์วินิจฉัยว่ามีความเหมาะสมในการรักษามะเร็งด้วยการฉายแสง แพทย์จะประเมินผู้รับการรักษาว่าควรฉายแสงด้วยเทคนิคใดและจำนวนกี่ครั้ง เพื่อให้สามารถยับยั้งมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในขณะที่ก็สามารถรักษาเนื้อเยื่อปกติเอาไว้ให้ได้มากที่สุดด้วยเช่นกัน

ก่อนการฉายแสง

  • จำลองการรักษา แพทย์จะให้ผู้รับการรักษาทำ CT simulation เพื่อจำลองการฉายแสงก่อนการฉายจริง โดยจะจัดท่าผู้รับการรักษาบนเตียงให้เสมือนท่าฉายจริง และใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ให้แสดงตำแหน่งและรูปร่างของมะเร็ง จากนั้น จะทำการมาร์คจุดทำสัญลักษณ์ขนาดเล็กบนผิวหนังของผู้รับการรักษา เพื่อแสดงตำแหน่งที่ถูกต้องสำหรับการฉายแสง
  • วางแผนการฉายแสง แพทย์จะกำหนดปริมาณรังสีที่เหมาะสมกับชนิดและระยะของมะเร็ง ทั้งนี้นักฟิสิกส์การแพทย์จะร่วมคำนวณและวางแผนรายละเอียดของรังสีให้มีความเหมาะสม ครอบคลุมขอบเขตรอบมะเร็ง และกระทบต่อเนื้อเยื่อปกติน้อยที่สุด โดยระยะเวลาที่ใช้วางแผนการรักษาจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับระดับความยากและซับซ้อนของมะเร็ง

ระหว่างการฉายแสง

  • จัดท่าและตรวจตำแหน่งรายวัน ก่อนการฉายแสงในแต่วัน นักรังสีแพทย์จะจัดท่าและตำแหน่งให้ถูกต้องในลักษณะเดียวกับการจำลองการรักษา โดยการใช้ระบบภาพนำวิถี (Image-Guided Radiation Therapy: IGRT) ภาพถ่ายรังสีตัดขวางเชิงปริมาตร (Cone Beam Computed Tomography; CBCT) ในการทำแผนที่ขนาดและรูปร่างของก้อนมะเร็ง รวมถึงการเคลื่อนที่ของมะเร็งในแต่ละวัน
  • ฉายแสงรักษามะเร็ง เมื่อผู้เข้ารับการรักษาได้รับการตรวจสอบตำแหน่งก้อนมะเร็งแล้ว แพทย์จึงจะเริ่มกระบวนการฉายแสง โดยให้เครื่องฉายรังสีแบบเร่งอนุภาค ฉายแสงไปยังตำแหน่งที่ได้มาร์คจุดทำสัญลักษณ์เอาไว้ โดยแพทย์และนักรังสีการแพทย์จะคอยให้การดูแลตลอดระยะเวลาการฉายแสง
  • ระยะเวลาในการฉายแสง โดยทั่วไป การฉายแสงจะใช้ระยะเวลาสั้น ๆ ประมาณ 2-5 นาที โดยหากรวมขั้นตอนการจัดท่า การรักษาจะใช้ระยะเวลาทั้งสิ้นประมาณ 15 นาที

หลังการฉายแสง

  • การใช้ชีวิตประจำวัน เมื่อเสร็จสิ้นการรักษา ผู้รับการรักษาสามารถกลับบ้านได้ และสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับบุคคลในครอบครัว และเพื่อนฝูงได้ตามปกติ โดยจะไม่มีรังสีใด ๆ แผ่ออกสู่บุคคลรอบข้างหรือสิ่งแวดล้อม
  • นัดติดตามผล ในช่วงแรก แพทย์จะทำนัดติดตามอาการและประเมินผลการรักษาประมาณ 2-4 สัปดาห์ และจะทำนัดห่างขึ้นหากผลการรักษาเป็นไปด้วยดี ไม่มีจุดที่ต้องกังวลใด ๆ และอาจพิจารณาการตรวจภาพถ่ายทางรังสีซ้ำ แล้วแต่กรณีไป

การฉายแสง ผลข้างเคียง อย่างไร What are the side effects of radiotherapy?

การฉายแสง ผลข้างเคียง อย่างไร

ผลข้างเคียงจากการฉายแสงแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับบริเวณของร่างกายที่ถูกฉายแสง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นชั่วคราวเพียงเล็กน้อย และสามารถหายขาดได้ด้วยยาตามแพทย์สั่ง ผลข้างเคียงจากการฉายแสง ได้แก่

  • ผลข้างเคียงทั่วไป อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ไม่อยากอาหาร บางครั้งอาจคลื่นไส้ หรือมีไข้
  • ผิวหนัง (บริเวณที่ฉายแสง) ผิวแห้ง มีรอยแดง สีผิวเข้มขึ้น คันผิวหนัง (ผิวหนังอักเสบจากรังสี)
  • ผลข้างเคียงเฉพาะที่ (ศีรษะและลำคอ) คอแห้ง ปากแห้ง เจ็บคอ ปัญหาสุขภาพฟัน
  • ผลข้างเคียงเฉพาะที่ (หน้าอก) ไอ หายใจถี่ ภาวะบวมน้ำเหลือง

การฉายแสงร่วมกับการให้เคมีบัดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่มากกว่า เช่น หลอดอาหารอักเสบ ปอดอักเสบ หรือเม็ดเลือดต่ำในระหว่างการฉายแสง ซึ่งอาการส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายหลังจบการรักษา ทั้งนี้ ระบบวางแผนการรักษาและเทคนิคการฉายรังสีในปัจจุบัน มีบทบาทสำคัญในการช่วยควบคุมปริมาณรังสีที่ฉายไปยังก้อนมะเร็ง ซึ่งช่วยลดรอยไหม้บนผิวหนัง และยังสามารถหลบเลี่ยงไม่ให้ไปโดนอวัยวะข้างเคียงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

การดูแลตนเองหลังฉายแสง รักษามะเร็ง What is self-care after radiotherapy?

การดูแลตนเองหลังฉายแสง รักษามะเร็ง

  • ยา ทานยาตามแพทย์สั่งเพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการฉายแสง
  • ความสะอาด อาบน้ำได้ตามปกติ แต่ให้เว้นการขัดถูบริเวณที่ฉายแสง และจุดที่มาร์คตำแหน่งการฉายแสงเอาไว้
  • ป้องกันผิว พยายามปกป้องผิวบริเวณที่ฉายแสงให้พ้นจากแสงแดดและความร้อน
  • สารอาหาร ดื่มน้ำให้เพียงพอ ทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง และนม เพื่อซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสียหาย
  • การใช้ชีวิต ออกกำลังกายเท่าที่ทำได้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดและวิตกกังวล หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการทานยาสมุนไพร และงดยาเสพติดทุกชนิด
  • การดูแลสุขภาพช่องปาก ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่มและใช้ไหมขัดฟัน บ้วนปากบ่อย ๆ ด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำยาบ้วนปากตามที่แพทย์แนะนำ หลีกเลี่ยงน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะอาจยิ่งทำให้เกิดอาการอักเสบมากยิ่งขึ้น

การฉายแสง ช่วยให้หายจากมะเร็งไหม

ผลของการรักษามะเร็งด้วยการฉายแสงขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของมะเร็ง มะเร็งระยะแรกเริ่มที่ได้รับการรักษาเร็วจะมีอัตราการหายขาดจากโรคสูงกว่า 90%  ในขณะที่มะเร็งระยะลุกลาม จะจำกัดเป็นเพียงการบรรเทาอาการเท่านั้น ดังนั้น การตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นประจำทุกปีจะช่วยให้พบโรคได้เร็ว และรับการรักษาได้อย่างทันท่วงที

ฉายแสง มะเร็ง รพ. เมดพาร์ค Radiotherapy, MedPark Hospit

ฉายแสง มะเร็ง รพ. เมดพาร์ค

ศูนย์รังสีรักษ รพ. เมดพาร์ค กรุงเทพ ประเทศไทย มีความพร้อมให้การรักษามะเร็งทุกระยะอย่างครอบคลุม ตั้งแต่มะเร็งระยะแรกเริ่ม จนถึงมะเร็งที่มีความยากซับซ้อนด้วยมาตรฐานการรักษาระดับสากล โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการพิเศษด้านรังสีรักษา ร่วมกันบูรณาการการรักษาด้วยวิธีหลากหลาย ทั้งการให้ยาเคมีบำบัด ยาภูมิคุ้มกันบำบัด ยามุ่งเป้า รังสีรักษา การปลูกถ่ายไขกระดูกหรือสเต็มเซลล์ และการผ่าตัด พร้อมด้วยอุปกรณ์การแพทย์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่คอยให้การติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้ผู้รับการรักษาหายขาดจากมะเร็ง ช่วยลดภาวะแทรกซ้อน ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ และช่วยให้ผู้รับการรักษามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

คำถามที่พบบ่อย

  • ฉายแสงเจ็บไหม

การฉายแสงไม่ทำให้เจ็บปวดหรือแสบร้อนแต่อย่างใด รังสีที่ใช้ในการรักษาจะคล้ายคลึงกับรังสีที่ใช้ในการเอกซเรย์ปอดหรือเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทั่วไป 

  • ฉายแสง ผมร่วงไหม

การฉายแสง ถือเป็นการรักษาเฉพาะที่ ฉายแสงตรงไหนก็ออกฤทธิ์เฉพาะที่อวัยวะส่วนนั้น เช่น ฉายแสงรักษามะเร็งเต้านม ก็จะมีผลของรังสีเฉพาะบริเวณเต้านมเท่านั้นโดยจะไม่ทำให้ผมร่วงแต่อย่างใด โดยจะมีเพียงการฉายแสงรักษามะเร็งสมองที่บริเวณศีรษะเท่านั้นที่อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้ผมร่วงได้

  • ฉายแสง กับ คีโม ต่างกันอย่างไร

คีโม เป็นการให้ยาเคมีบำบัดที่กระจายทั่วร่างผ่านทางหลอดเลือดหรือโดยการดูดซึมผ่านทางลำไส้ เพื่อให้กำจัดเซลล์มะเร็งทั่วร่างกาย ในขณะที่คีโม หรือการฉายแสง ใช้รังสีเอกซ์ โฟตอน หรืออนุภาคประจุไฟฟ้าพลังงานสูง มุ่งเป้าเฉพาะที่ไปยังบริเวณเนื้องอกหรือก้อนมะเร็งเท่านั้น เพื่อหวังผลให้ทำลายเฉพาะเซลล์มะเร็งตรงบริเวณดังกล่าว

  • ฉายแสง กี่นาที

โดยทั่วไป กระบวนการฉายแสงทั้งหมดจะใช้ระยะเวลาทั้งสิ้นประมาณ 2-7 สัปดาห์

    • ผู้รับการรักษา จะฉายแสงสัปดาห์ละ 5 วันติดต่อกัน และจะหยุดพัก 2 วัน เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อร่างกาย
    • ขั้นตอนการฉายแสงในแต่วัน จะรวมถึงการจัดท่าและตรวจตำแหน่งของก้อนมะเร็ง โดยจะใช้ระยะเวลาทั้งหมดประมาณ 15 นาที โดยขั้นตอนการฉายแสงจริง จะใช้ระยะเวลาเพียง 2-5 นาที เท่านั้น

บทความโดย

เผยแพร่เมื่อ: 10 พ.ย. 2025

แชร์

แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

  • Link to doctor
    ผศ.พญ. ดนิตา กานต์นฤนิมิต

    ผศ.พญ. ดนิตา กานต์นฤนิมิต

    • รังสีรักษามะเร็งวิทยา
    Intensity-Modulated Radiotherapy (IMRT), Image-Guided Radiotherapy (IGRT), Stereotactic Radiosurgery (SRS), Stereotactic Radiotherapy (SRT), Clinical Interest in Breast Cancer, Clinical Interest in Head and Neck Cancer, Clinical Interest in Lung Cancer, Radiation Oncology
  • Link to doctor
    รศ. (พิเศษ) พญ. สาริน กิจพาณิชย์

    รศ. (พิเศษ) พญ. สาริน กิจพาณิชย์

    • รังสีรักษามะเร็งวิทยา
    ผ่าตัดมะเร็งบริเวณศีรษะและลำคอ, Upper GI Cancer, Central Nervous System Tumors, Brain and Spinal Tumor, Brain Metastasis, Intensity-Modulated Radiotherapy (IMRT), Volumetric Modulated Arc Therapy (VMAT), Stereotactic Radiosurgery (SRS), Stereotactic Radiotherapy (SRT), Stereotactic Body Radiotherapy (SBRT), Proton Therapy, Radiation Oncology
  • Link to doctor
    ผศ.นพ. จักรพงษ์ จักกาบาตร์

    ผศ.นพ. จักรพงษ์ จักกาบาตร์

    • รังสีรักษามะเร็งวิทยา
    Radiation Oncology
  • Link to doctor
    พญ. กาญจนา โชติเลอศักดิ์

    พญ. กาญจนา โชติเลอศักดิ์

    • รังสีรักษามะเร็งวิทยา
    Radiation Oncology
  • Link to doctor
    ศ.นพ. ชวลิต เลิศบุษยานุกูล

    ศ.นพ. ชวลิต เลิศบุษยานุกูล

    • รังสีรักษามะเร็งวิทยา
    Intensity-Modulated Radiotherapy (IMRT), Volumetric Modulated Arc Therapy (VMAT), Stereotactic Radiotherapy (SRT), Head Cancer, Neck Cancer, Breast Cancer, โรคมะเร็งปอด, Esophageal Cancer, Gastroesophageal Cancer, Pancreaticobiliary Cancer, Soft Tissue Sarcoma, Radiation Oncology
  • Link to doctor
    นพ. ยงยุทธ คงธนารัตน์

    นพ. ยงยุทธ คงธนารัตน์

    • รังสีรักษามะเร็งวิทยา
    Radiation Oncology, Breast Cancer, มะเร็งต่อมลูกหมาก, Intensity-Modulated Radiotherapy (IMRT), Image-Guided Radiotherapy (IGRT), Stereotactic Radiotherapy (SRT), Stereotactic Radiosurgery (SRS)
  • Link to doctor
    พญ. กิตต์วดี ศักดิ์ศรชัย

    พญ. กิตต์วดี ศักดิ์ศรชัย

    • รังสีรักษามะเร็งวิทยา
    Advanced Radiotherapy, Breast Clinical Oncologist, Radiation Oncology
  • Link to doctor
    พญ. นารีนาฎ รัชพงษ์ไทย

    พญ. นารีนาฎ รัชพงษ์ไทย

    • รังสีรักษามะเร็งวิทยา
    Radiation Oncology
  • Link to doctor
    พญ. ชนน์นิภา นันทวิทยา

    พญ. ชนน์นิภา นันทวิทยา

    • รังสีรักษามะเร็งวิทยา
    Radiation Oncology
  • Link to doctor
    นพ. ธีรกุล จิโรจน์มนตรี

    นพ. ธีรกุล จิโรจน์มนตรี

    • รังสีรักษามะเร็งวิทยา
    Intensity-Modulated Radiotherapy (IMRT), Volumetric Modulated Arc Therapy (VMAT), Radiation Oncology